5 สถานที่สำหรับคอดนตรีในกรุงเทพ โดย ตุล ไวฑูรเกียรติ

Adhere แอ็ดเฮียร์

คุณปั๊ม อพาร์ตเมนต์คุณป้าบอกว่าถ้าอยากโยกบลูส์ต้องมา Adhere ร้านเหล้าน่ารักที่ตั้งอยู่บนตีนสะพานบางลำพู ห่างจากย่านข้าวสารเพียงห้านาทีโดยการเดินเท้า สำหรับคนที่ยังไม่ทราบว่าดนตรีบลูส์คืออะไร ผมขอลองให้ไปร้านนี้ เพราะเจ้าของร้านคุณโป๊ง คือมือกีตาร์บลูส์ที่เล่นได้ไพเราะที่สุดคนหนึ่ง เขากับเพื่อนๆทำวง banglumpoo band ขึ้นมาเพื่อ entertain ลูกค้าในร้านโดยเฉพาะ พูดถึงร้าน adhere ก็ต้องพูดถึงวงนี้อย่างแยกไม่ออก ความฮาของวงนี้อยู่ตรงที่ อายุสมาชิกห่างกันมากโดยนักร้องนำเป็นลุงฝรั่งแก่ๆชื่อ ลุง phil อายุก็ปาเข้าไปหกสิบ แต่ มือกีตาร์อีกคนคือน้องกันตรึมมีอายุเพียงแค่สิบห้าปี ซึ่งตามความเป็นจริงไม่น่าจะได้รับอณุญาตให้เข้าร้านเหล้าได้ แต่เอาเหอะครับน้องเขาเก่งไม่เบา เพราะเติบโตมากับเสียงดนตรีแถมเป็นทายาทแท้ๆของตำนานเพลงเพื่อชีวิต สุรชัย จันทิมาทร และบรรยากาศพิเศษอีกอย่างของร้านนี้ก็คือ คุณจะขอเขาแจมดนตรีด้วยก็ได้ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่คุณจะเห็นทั้งคนไทยและฝรั่งกอดคอกันเมามายไปกับการแจมบลูส์ (หรือที่คุณ ปั๊มเรียกว่าโยกบลูส์) โดยไม่มีปัญหาเรื่องเชื้อชาติหรือภาษา อ้อ อีกทีเด็ดของร้านนี้ก็คือเบียร์ลาวรสชาตนุ่มลิ้น

ภาพทั้งหมดโดย Ped Uckk

Common Ground

ถัดจากร้าน Adhere มาสี่คูหาก็เป็นภูมิลำเนาของ common ground ที่แฮงเอาท์ของเด็กแนวที่แนวยิ่งกว่าแนว จนทำให้วงอย่างอพาร์ตเมนต์คุณป้าดูแมสไปเลย ร้านคอมมอน กราวด์เป็นที่ที่ให้โอกาสวงหน้าใหม่ได้แสดงฝีมือโดยไม่จำกัดแนว ดังนั้นคุณจึงสามารถจะพบอนาคต supersrar ของวงการอินดี้ได้ที่นี่ เพราะคุณอ๊อป ปวิณ ครีเอทิฟชื่อดังที่ผันตัวมาเป็นเจ้าของร้านสุดหล่อ (ที่ชอบมานั่งคอปเปอร์บ่อยกว่าร้านตังเองอีก) บอกว่าเขาเปิดคอมมอน กราวด์ เพราะอยากให้โอกาสกับวงเล็กๆได้แสดงฝีมือบ้าง สรุปว่าอ๊อปเปิดร้านนี้เพราะมีใจรักในเสียงเพลง เสียงดนตรีบรรเลงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอ๊อป ล่าสุดcommon ground ลงทุนเอาวง Apple Jelly วง electro ชื่อดังจากปารีส ที่มาถล่มร้านด้วย soundล้ำๆ ๆและกลิ่นเต่าของมือคีย์บอร์ดที่อบอวลจนทำให้แม้แต่น้องป่อมป๊อม (the diet pills)ต้องรับประกันในความมัน บวกด้วยความมึน http://www.myspace.com/commongroundbkk ถ้าหากคุณสนใจอยากจัดปาร์ตี้ก็ติดต่อได้ทางเวปนี้ครับ commond ground ยินดีรับใช้

ภาพทั้งหมดโดย Ped Uckk

Cosmic Café

Cosmic Café พำนักอยู่ที่ RCA block C หน้า แฟตเรดิโอ นี่จึงอาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมี่แต่คนแนวๆมารวมตัวกันที่นี่จนได้ชื่อว่าเป็นร้าน headline ของ RCA ร้านหนึ่งไปแล้ว จุดเริ่มต้นของ cosmic เกิดจากการเป็นร้านกาแฟ ( ที่ทำกาแฟได้จืดอุบาทว์อย่างมาก เพราะป๋าแด๊กเจ้าของไม่เคยกินกาแฟ ) หลังจากนั้นป๋าแด็กและคุณก้อง สองพี่น้องดูโอจึงปรับกลยุทธโดยเปลี่ยน cosmic café จากร้านกาแฟดาดๆมาสู่ร้านเหล้าชั้นเลิศ ที่มี่ event ทางดนตรีและศิลปะมากมาย ด้วยการให้บริการที่เป็นกันเอง และ ดนตรีหลากหลายสไตล์ บวกกับมัดกล้ามงามๆของป๋าแด๊ก (ที่บอกเสมอว่ายังโสดและต้องการรอคอยเพื่อเจอคนที่ใช่)จึงไม่แปลกใจเลยที่เมื่อก้าวเข้าไปใน cosmic คุณจะได้กระทบไล่ celeb, ดารา และศิลปิน ชื่อดัง อาทิเช่น ก้อย รัชวินทร์, โอปอล, อุ๋ย นนทรีย์, โลเล, โน๊ต dudesweet และอีกเพียบ หากจะพูดถึงEvent ที่เป็นตำนาน ของ cosmic ในอดีตก็คือ A comic universe ที่เหล่าศิลปินในกรุงเทพต่างนำบทเพลงของ the beatles มาคอฟเวอร์อย่างสุดฝีมือจนเป็นปาร์ตี้ที่ประสบความสำร็จมากปาร์ตี้หนึ่ง นี่ยังไม่นับ surprise concert จากวงในตำนานเช่น siam secret service พราว และ สี่เต่าเธอ ที่เหมือนเป็นการยกยุค 90’s มาทั้งยุคเลย สำหรับใครที่อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ www.myspace.com/cosmiccafe_rca

ภาพทั้งหมดโดย Ped Uckk

Shade of Retro

อยู่ในซอยธารารมณ์ 2 ทองหล่อ ใกล้ playground ที่เจ๊งกระบ๊งไปแล้ว เพียงคุณเดินเข้าซอยไปเพียง 53เมตร แล้วมองขวาไว้เลยร้านนวดเฉพาะจุด men relax ไปสองคูหาคุณก็จะได้พบกับบาร์น่ารักๆที่อดีตเคยเป็นร้าน furniture แนวโมเดิร์นเรโทร แต่ตอนนี้ได้ดีจากการขายสุรา จุดเด่นของร้านนี้คือการตกแต่ง และเพลงครับ เพราะคุณบอย อนันต์ ตาตูโฮ เป็น music lover ตัวจริง ผมมักแวะไปคุยกับแกบ่อยๆ คุณบอยนี่ถือว่ารู้จักวง new wave ในยุคแปดศูนย์เป็นอย่างดีดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่เราจะได้พบกับ collection vinyls อันมากมายอาทิ เช่น velvet underground, the cure, adam and the ants, david bowie, talking heads รวมไปถึงแผ่นแจ็สหายากที่มีไว้จำหน่ายด้วย หากคุณต้องการบวกกับมีกระตังค์ ความเก๋าของร้านนี้อีกอย่าวก็คือ quality ของสาวๆ ปกติร้านที่เปิดเพลงประหลาดมักมีแต่ผู้ชายสไตล์ music nerd แต่ร้านนี้ทำไมดึงดูดสาวๆได้อันนี้สงสัยพี่บอยเจ้าของร้านคงเป็นคนเดียวที่ให้คำตอบได้กระมังครับ และสุดท้ายสำหรับคนที่ไม่นิยมความเมา ที่นี่มี่ mocktail สุดอร่อยชื่อ Suriyes ไว้บริการไม่เชื่อลองไปชิมดูรับรองจะอึ้ง พูดไม่ออกไปเลย

ภาพทั้งหมดโดย Ped Uckk

Overtone RCA

ถ้าหากคุณชื่นชอบดนตีรีสด ไม่ตามสมัย และชอบดูการโซโล่ยาวๆ Overtone คือทางเลือกของคุณ ถ้าบอกว่า Overtone เป็น Pub คงต้องบอกว่าไม่เชิง! Overtone เป็นที่แสดงดนตรี (Live house ) มากกว่าแค่ มาเมา แล้วฟังดนตรีอะไรก็ได้ Overtone เป็นสถานที่จะทำให้คนเล่นและคนฟัง มาเจอกัน ในรสนิยมดนตรีแบบเดียวกัน และคุยกันรู้เรื่อง หรือบางวัน คุณอาจเจอนักดนตรีคนที่คุณอยากคุยด้วย(หรือไม่อยากจะคุยด้วย) ยืนคุยกับคุณอยู่อย่างไม่คาดฝันก็เป็นได้ นักดนตรีที่ผมเคยพบปะที่ overtone ก็มีอาทิเช่น พี่โอม ชาตรี, ก้อง นูโว, น้าโอ้ Olarn Project , พี่ดา อินคาและเหล่าศิลปินที่เป็น hero ที่จะทำให้ผมย้อนยุคไปยังปี 1980’s คุณอาจจะเจอเพื่อนคุยในเรื่องที่คนอื่นไม่สนใจ เช่นคุยกันเรื่องความถี่500 k ได้ คุยกันได้ว่า ถ้าเปลี่ยน นัทกีตาร์ เป็นกระดูก หรือทองเหลือง เสียงจะเป็นอย่างไร หรือ ได้ยินเสีองของไม้จากกีต้าร์ตัวนี้หรือเปล่า มันอุ่นจริงๆ แจ็คกีตาร์โมกามิมันนำสัญญาณดีจังเลย คุณอาจได้เจอกับคนเหล่านี้ และกลาย เป็นเพื่อนรู้ใจ หรือคุณอาจจะเหวอพวกเขาไปเลยก็ได้ สรุป หากคุณรู้ตัวว่าเป็น music nerd เหมือนผม ขอเชิญมาชม overtone rca ปล ไม่แนะนำให้มาจีบสาว เพราะส่วนใหญ่มีแต่ผู้ชายมา (555) และอาหารอร่อยมาก ข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่ www.myspace.com/overtonemusiccave

Trash & Treasure

Torchlight Night Market

ในค่ำคืนวันเสาร์ หลายคนอาจต้องการที่จะหลีกเลี่ยงการจราจรที่ไม่ใครจะคล่องตัวนัก บริเวณสี่แยกถนนเสือป่า ฝั่งโรงพยาบาลกลางไล่เรื่อยไปจนถึงแยกคลองถม อันเนื่องมาจากตลาดนัดแผงลอยแบกับดินบนฟุตบาทโดยรอบบริเวณ แต่ในหมู่นักช้อปฯงบน้อย หรือผู้ที่เสาะแสวงหาของแปลกหายากแล้ว ที่แห่งนี้กลับมีเสน่ห์ดึงดูดต่างจากตลาดนัดอื่นๆ เอกลักษณ์เฉพาะของที่นี่คือมีสินค้าทุกประเภทให้คุณได้เลือกสรร คุณสามารถพบของที่ไม่คิดว่าคนจะเอามาขายกันได้ที่นี่ตั้งแต่กล่องไม้จิ้มฟัน ของชำร่วยงานแต่งงาน เฟอร์นิเจอร์เก่า รถมอเตอร์ไซค์ เครื่องใช้ไปไฟฟ้า พระเครื่อง แผ่นเสียงไวนีลเก่าคร่ำ ตลอดจนอะไหล่เครื่องยนต์ หรือแม้แต่ชักโครก! เรียกว่าใครใคร่ค้าอะไร ค้า ใคร่ขายอะไร ขาย สภาพสินค้ามีตั้งแต่ยังใช้งานได้ไปจนถึงผุพังชนิดที่ไม่น่าจะมีคนซื้อ แต่อย่าได้ประมาท เพราะมีดีมานด์ย่อมต้องมีซัพพลาย ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าใครจะตาดีได้ตาร้ายเสีย ที่เรียกตลาดไฟฉายเพราะเมื่อก่อนมืดจนคนซื้อต้องส่องไฟฉายตรวจเช็คสภาพกัน บางคนจึงเรียกว่าตลาดมืด หรือบางทีอาจเป็นนัยอีกความหมาย สืบเนื่องมาจากที่มาของสินค้าซึ่งอาจเป็นของหลุดจำนำ หรือมีที่มาไม่สู้จะโปร่งใสนัก แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือเสน่ห์และสีสันของวิถีชีวิตของผู้คนเดินถนนยามค่ำคืนต่างที่มา ต่างชั้นวรรณะ ไม่ต่างจากสินค้าที่กองเกลื่อนอยู่กับพื้นฟุตบาทที่รอให้ใครสักคนหยิบขึ้นมาเหมือนสมบัติล้ำค่าหายาก หรืออาจจะเป็นเพียงขยะที่ถูกมองผ่านเลยไปในสายตาของใครอีกคน

ตลาดไปฉาย บนฟุตบาทโดยรอบสี่แยกโรงพยาบาลกลาง ถนนเสือป่า

Where: สี่แยกโรงพยาบาลกลาง

When: คืนวันเสาร์

ภาพโดย มนูญ ทองนพรัตน์

Shanghai Surprise

เยาวราชเป็นย่านเก่าแก่ที่มีเสน่ห์และสีสันมากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ นอกจากร้านค้าเครื่องทอง ของใช้ และอาหารอร่อยๆที่มีให้เลือกกินกันไม่หมดแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของ เชียงไฮแมนชั่น (Shanghai Mansion) บูติคโฮเต็ลหนึ่งเดียวในละแวกนี้ ซึ่งผสานเสน่ห์คลาสสิกแบบจีนในทศวรรษที่ 1930 มาจำลองไว้ในโลกปัจจุบัน ตัวอาคารเดิมเป็นของคหบดีเชื้อสายจีน และเคยเป็นโรงงิ้วมาก่อน ภายในตกแต่งบรรยากาศได้โรแมนติกไม่แพ้หนังของหว่องกาไว ด้วยสีสันจัดจ้านแบบจีนที่ฉาบทาทับไว้ ทั้งแดงเข้ม ชมพูสด และม่วง พร้อมเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งสไตล์จีนในห้องพักสามแบบ ซึ่งมีชื่อเรียกตามชื่อดอกไม้ดั้งเดิมของจีนคือ โบตั๋น (Peony Suiets) หยิงฮัว (Cherry Blossom Havens) และเหมยฮัว (Plum Blossom Havens) ได้บรรยากาศของแมนชั่นในเชียงไฮยุคเฟื่องฟู การันตีด้วยผลโหวตให้เป็นหนึ่งใน best boutique hotel ปี 2008 จาก hotel club awards asia

Where: Shanghai Mansion 479-481 ถนนเยาวราช

Tel: +66 (0)2 678 0101 www.shanghaimansion.com